เมืองโบราณ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี 2506 ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33.5 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร เป็นศูนย์รวมปูชนียสถานที่สำคัญๆ ของแต่ละจังหวัด เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา ฯลฯ โดยสร้างให้มีขนาดเล็กลง บางแห่งเท่าแบบจริงการสร้างฝีมือประณีต
สำหรับบางคนแล้ว อดีตนับเป็นสิ่งเลวร้ายที่ไม่น่าจดจำ แต่กับ เล็ก วิริยะพันธุ์ แล้ว อดีตถือเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันกับอนาคต ซึ่งชายชื่อเล็กแต่มักจะทำอะไรใหญ่ๆ ก็ได้สะท้อนแนวคิดนี้ออกมาด้วยการสร้าง เมืองโบราณ ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2506 ด้วยการจำลองสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมชิ้นโบว์แดง 76 จังหวัดทั่วไทยมารวมไว้ ในผังบริเวณ (สมัยนั้น) ที่จำลองให้คล้ายไทยแลนด์แดนขวานทอง และเมื่อแล้วเสร็จ ก็เปิดตัวอวดโฉมต่อสายตานักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 หลังจากนั้นเมืองโบราณก็สร้างโน่น สร้างนี่ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ซึ่งนับวันก็มีแต่น่าสนใจมากขึ้น ณ วันนี้ หากไปเที่ยวเมืองโบราณนอกจากเราจะได้เที่ยวชมและสัมผัสกับสุดยอดสถาปัตยกรรม และศิลปะกรรมจำลองแล้ว เรายังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งอดีต ที่น่าจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในเมืองไทย เริ่มกันตั้งแต่พอเสียเงินตีตั๋วค่าเข้าชม ทางเมืองโบราณก็ทำเก๋ด้วยการมีสตางค์รูเหรียญละ 20 บาท ให้แลกเอาไว้ใช้ซื้อของเฉพาะในเมืองโบราณ (ไม่สามารถนำไปใช้ข้างนอกได้) หรือเก็บกลับบ้านเป็นที่ระลึก เมืองโบราณจัดวางผัง ให้คล้ายแผนที่ประเทศไทย ฉะนั้น ตั้งแต่ประตูทางเข้า จะเป็นการเริ่มเที่ยวจากภาคใต้ ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ หากไปถึงช่วงเช้า เดินจากภาคใต้ขึ้นไปถึงภาคกลาง ก็จะถึงโซนตลาดน้ำช่วงกลางวัน บริเวณนี้ มีร้านค้า และร้านอาหารโบราณหลายร้าน อยู่รายรอบ การมาเที่ยวเมืองโบราณ ให้คุ้มค่า ควรใช้เวลาเต็มวัน เช้าถึงเย็น ส่วนรูปแบบการเที่ยวในเมืองโบราณก็มีทั้งเดิน ขี่จักรยาน (มีให้เช่า) นั่งรถราง และขับรถส่วนตัวชมเมืองโบราณ การขี่จักรยานชมเมืองโบราณ อาจถือว่าเป็นวิธีการเที่ยวเมืองโบราณที่ได้อรรถรสที่สุด เพราะจะไปถึงจุดที่ต้องการชม คล่องตัว รวดเร็ว เป็นการออกกำลังกายอีกทางหนึ่ง หรือจะซื้อตั๋วรถราง ซึ่งมีวิ่งตลอดวัน พร้อมมีไก๊ดบรรยาย อยากแวะลงจุดไหนก็ได้ตามสะดวก เมื่อเดินชมเสร็จ ก็รอรถรางคันต่อไป ส่วนขับรถชม บางจุดรถก็ผ่านไม่ได้
อย่างกับที่ ตลาดโบราณ หรือ ตลาดบก ที่อยู่ตรงช่วงกึ่งกลางผังรูปด้ามขวานทอง นี่หากขับรถ จะได้แค่ผ่าน แต่ถ้านำเจ้าจักรยานเข้าไปในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ละก็ ขอบอกว่า สนุกมาก เพราะในนั้นนอกจากเราจะได้ดูการจำลองบรรยากาศตลาดในอดีต ที่หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เรายังจะได้เพลิดเพลินไปกับการชม การช้อปของกิน ของขายแบบโบราณ โดยมีพ่อค้าแม่ค้าหน้าตาสมัยใหม่ปนโบราณแต่งชุดไทยพื้นขายของแบบน่ารักน่าซื้อมาก
ขอแนะำนำให้ไปเที่ยวชม พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท และเมื่อถึงที่พระที่นั่งสรรเพชญฯ ก่อนเข้าชมภายใน ควรเดินสำรวจชมความงามรอบๆ พระที่นั่งฯ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยรวบรวมเอาเอกลักษณ์แห่งความเป็นอยุธยาเข้าไว้ด้วยกัน ไล่ไปตั้งแต่เสา หลังคา ลวดลายประดับต่างๆ โดยทางเมืองโบราณได้ค้นคว้าจากหลักฐานต่างๆที่เหลือ ก่อนที่จะมาถอดแบบเป็นผังและก่อสร้างออกมาโดยย่อลงมา 3 ใน 4 ส่วน จากของจริง ซึ่งไม่ได้งดงามแค่ภายนอกเท่านั้น
จุดที่น่าสนใจต่างๆ ซึ่งทางเมืองโบราณได้แบ่งออกเป็นภาค
ภาคกลาง
นอกจากพระนั่งสรรเพชญฯ ก็มีจุดน่าเที่ยว อาทิ มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่อยู่ในพระบรมมหาราชวังในกทม.นี่เอง
ภาคเหนือ
ที่โดดเด่นน่าชมก็มี หมู่บ้านไทยภาคเหนือ ให้อารมณ์ล้านนา ที่สงบ ร่มรื่น น่านั่งแช่เป็นวันๆมาก ส่วนวัดต่างๆก็โดดเด่นด้วยเอกลักลักษณ์เฉพาะตัวของวัดนั้นๆ ที่ไม่ควรผ่านเลยก็มี วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน มองด้านนอกงดงามอ่อนช้อยมีบันไดพญานาคราช เลื้อยออกจากวิหาร ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยหันหน้าไปตามทิศทั้งสี่ เรียกได้ว่าถอดแบบจากของจริงมาสร้างได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ
มีของดีให้ดูเพียบ ไปแล้วไม่น่าพลาดการชม พระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย แห่งโคราช ส่วนใครมีแรงเดินก็น่าจะขึ้นไปชม ปราสาทเขาพระวิหาร ที่หากวันดีคืนดีเขมรปิดเขาพระวิหารอีก เราก็ไม่เห็นต้องง้อ ไปดูที่เมืองโบราณก็ได้ แถมไม่ต้องกลัวเหยียบกับระเบิดด้วย
ภาคตะวันออก
สภาพดูเก่าแต่ก็มีความเก๋าตามแบบตึกไทยผสมฝรั่งเศสนี่ก็อยู่ในช่วงด้ามขวานของแผนที่ (อย่างที่กล่าวไว้คือผังบริเวณยุคต้นๆ จำลองมาจากแผนที่ประเทศไทย) ซึ่งเป็นจุดที่ขี่จักรยานผ่านมาในช่วงแรกๆ ซึ่งทางเมืองโบราณได้ทำผังเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย จุดน่าสนใจของภาคใต้จึงอยู่ในช่วงพื้นที่ด้ามขวาน ห่างจากทางเข้ามาไม่มากนัก โดยจุดน่าชมระดับคลาสสิกก็มี พระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช
การเที่ยวชมเมืองโบราณถือเป็นเรียนรู้อดีตอันยิ่งใหญ่และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเรื่องราวในอดีตนั้นทำให้เราได้เรียนรู้ในปัจจุบัน และสามารถที่จะดำเนินชีวิตในอนาคตได้อย่างรู้เท่าทัน
รายละเอียดเกี่ยวกับเมืองโบราณ
- ที่ตั้ง : ตำบลบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
- เปิดให้เข้าชมกันทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. แล้วก็อยู่เที่ยวข้างในได้จนถึง 18.00 น.
- ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี คนละ 25 บาท อายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม (ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่คนละ 300 บาท เด็ก 200 บาท)ค่าจักรยาน (1 ที่นั่ง) 50 บาทค่ารถยนต์/รถตู้ (ไม่รวมคนขับ) คันละ 50 บาท รถราง + มัคคุเทศก์ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท
การเดินทาง :
- รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ไปทางเส้นทางปากน้ำ (สายบางนา-สมุทรปราการ) ผ่านโรงเรียนนายเรือ ศาลากลางจังหวัด ถึงแยกหอนาฬิกา เลี้ยวซ้ายไปทาง ถ.สุขุมวิทสายเก่า ประมาณ กม.ที่ 33 (ประมาณ 8 กิโลเมตร) ก็จะเห็นทางเข้าเมืองโบราณทางซ้ายมือ
- รถประจำทาง ขึ้นรถ บขส. ชลบุรี (สายเก่า) ที่สถานีขนส่งเอกมัยหรือขึ้นรถเมล์ ขสมก. สาย ปอ.8, ปอ.11, สาย 25, 102 ลงที่ปากน้ำ แล้วต่อรถเมล์เล็กท้องถิ่นสาย 36
- สอบถามรายละเีอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2709-1644, 0-2224-1057, 0-2226-1936-7
- website : http://www.ancientcity.com/
- แหล่งข้อมูล : http://www.manager.co.th/
- ท่านสามารถดาวน์โหลดข้อมูลในรูปแบบ Microsoft Word ได้ที่นี่
http://th.upload.sanook.com/A0/ae8ac985875cd1ea433b1a2a940e2fd1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น